วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เรามารู้ถึงความแตกต่างของ American English และ British English กันครับ

     ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง รวมทั้งยังเป็นภาษาราชการและภาษาที่สองในหลายๆประเทศ ภาษาอังกฤษมีความสำคัญกับชีวิตเรามากๆ ไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหนในตอนนี้คุณจะเห็นแต่ภาษาอังกฤษเต็มไปหมด ในปัจจุบันภาษาอังกฤษได้เข้ามาในบทบาทชีวิตของเีรามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจ การทำงาน การเรียน ซึ่งการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจะเป็นประโยชน์ต่อท่านมากๆ วันนี้ผมจะนำเสนอความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องของความแตกต่างของภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกาและของสหราชอาณาจักรกัน ซึ่งผมมั่นใจว่าเป็นประโยชน์ต่อท่านที่สนใจอย่างแน่นอนครับ


ความแตกต่างนั้นก็มีหลายอย่างครับ โดยเริ่มจาก


    1.  โครงสร้างประโยคในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ผลยังสามารถเ็ห็นได้ในปัจจุบัน

American English: I can't go out anywhere. My car broke down last Friday.

British English: I can't go out anywhere. My car has broken down last Friday.

American English: My cat is missing. Did you see it?

British English: My cat is missing. Have you seen it?

* สังเกตไหมครับว่าทั้งสองมีความแตกต่างกันชัดเจน ในส่วนของ American English มักจะไม่ใช้ Present Perfect Tense ในเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตที่มีผลในปัจจุบัน แต่จะใช้ Past Simple Tense ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วแทนครับ แต่ของ British English จะใช้ Present Perfect Tense ในเหตุการณ์ที่เชื่อมมาถึงปัจจุบันครับ

    2.  การใช้คำกริยากับคำนามที่มีความหมายเป็นกลุ่ม (Verb agreement with collective nouns)

American English: I bet you this team is going to win.

British English: I bet you this team is/are going to win.

* เห็นได้ว่าคำนามอย่างคำว่า team ในของ American English จะใช้ team เป็นเอกพจน์เท่านั้น สังเกตได้จาก ใช้ is แต่ในส่วนของ British English ใช้ team เป็นทั้งพหุพจน์และเอกพจน์ สังเกตุได้จาก is/are


    3.  การใช้ have และ take 

American English: I am going to take a shower.

British English: I am going to have a shower.

American English: Let's take a vacation.

British English: Let's have a vacation.

* ในการรับประทานอาหารจะใช้ have ทั้งสองชนชาตินะครับ จะไม่ใช้ take เช่น "Let's have dinner." เราจะไม่ใช้ "let's take dinner." นะครับ


    4.  การใช้คำกริยาช่วย need, will, shall, should, Have และ Have got

- need

American English: You don't need to visit me often.

British English: You needn't to visit me often.

* British English ใช้ need โดยเติม not เข้าไปหากเป็นรูปแบบปฏิเสธ แต่ American English ใช้ Verb to Do เข้ามาช่วยทำให้เป็นปฏิเสธ

- will & shall

American English: I will go with you.

British English: I shall/will go with you.

* ในของ American English จะไม่ค่อยใช้ shall ครับ แต่ของ British English นั้นใช้ทั้งคู่ครับ

- shall & should (ใช้ในการขอความคิดเห็นหรือคำแนะนำ)

American English: Should we take a long vacations?

British English: Shall we have a long vacations?

- have & have got

American English: I have a brother.


British English: I have got a brother


    5.   การใช้คำบุพบท (Use of Preposition)

- on & at (ใช้กับสัปดาห์)

American English: He will come back on the weekend.

British English: He will come back at the weekend.

- in & at (ใช้กับสถานที่)

American English: I am studying in NRRU university.

British English: I am studying at NRRU university.


    6.   คำกริยาช่องที่ 2 และ 3 (Past Tense and Past Participle forms)





* ดังภาพตัวอย่างนะครับ Br ก็คือ British และ Am ก็คือ America จะเห็นได้ว่ามีความต่างกันเพียงบางคำ

   7.   Pronunciations
สำหรับการออกเสียงภาษาอังกฤษของทั้งสองชนชาตินั้น ท่านสามารถคลิี๊กชมวิดีโอด้านล่างได้เลยครับ


 




    จบแล้วครับสำหรับการนำเสนอความแตกต่างของ American English และ British English ในความคิดเห็นของผมต่อการใช้ภาษาอังกฤษว่า เราควรใช้ของชนชาติไหนดี ผมแนะนำว่าขึ้นอยู่ที่ตัวท่านเองครับ ว่าท่านเข้าใจและถนัดแบบไหน ซึ่งทั้งสองแบบก็เป็นที่ยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การเขียน การสอน และอื่นๆ แต่ถ้าหากวันหนึ่งท่านได้ไปต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอังกฤษ ท่านต้องเลือกใช้ภาษาอังกฤษตามพื้นที่เพื่อการสื่อสารที่ง่ายขึ้น ขอขอบคุณทุกท่านที่รับชมบทความของผมครับ






.




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น